หัวแบบนี้อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นละครเรื่องหนึ่งหรือเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งของไทยไปนะครับ คำว่าลูกระนาดนี้ผู้เขียนคิดได้ตอนที่เขียนข้อคิด คิดสักนิด ที่พูดถึงลูกระนาดที่คนขับรถบนท้องถนนตามหมู่บ้าน ชุมชนมักประสบพบเจอกันเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะ ช่วงถนนเข้าออกหมู่บ้านหรือชุมชน นัยว่าเป็นการทำขึ้นเพื่อลดระดับความเร็วของผู้ขับขี่รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ได้ชะงักนัก เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ส่วนพวกที่โหลดรถต่ำเรี่ยพื้นถนนคงหัวเสียกับลูกระนาดเจ้าปัญหาน่าดู พวกที่ขับดีมีมารยาทก็พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย
คงจะมีลูกระนาดบนท้องถนนก็เฉพาะเมืองไทยเรานี่แหละครับบ้านอื่นเมืองอื่นเขาคงไม่มี หรือมีหน้าตามันก็คงไม่ได้เป็นแบบที่เห็นๆ กันอยู่ ที่สำคัญเสียงครึ..ครืด...เวลาคานเหล็กใต้ท้องรถกระทบกับลูกระนาดทีไรได้ยินแล้วปวดใจ เจ็บใจพิลึก แล้วที่มาของเจ้าลูกระนาดนี่ไม่รู้ว่าเกิดจากแนวความคิดใคร หัวใสเสียจริงๆ คนที่ขับรถข้ามมันทุกวันต้องนึกเข่นเขี้ยวบ้างล่ะ ผับผ่าสิ
เท่าที่พบเห็นลูกระนาดแต่ละพื้นที่ก็มีความแตกต่างไม่ได้มาตรฐานเท่ากันสักแห่งแต่มีอยู่ที่หนึ่งครับน่าสรรเสริญมาก มหาวิทยาลัยมหิดลที่ศาลายา ถ้าใครเคยเข้าไปที่นั่น หรือผ่านไปลองแวะไปสัมผัสได้ถึงความอัศจรรย์ ของลูกละนาดที่นั่นได้ สโลป...ทั้งขาขึ้นและขาลง นิ่มนวลมากเวลาเราขับรถข้าม ไม่กระดกกระเดก ครูดจนเครื่องยนต์แทบพังเหมือนถนนเข้าหมู่บ้าน สโลปคล้ายคลื่นในทะเลนั่นเทียว นัยว่ากว่าจะได้ลูกระนาดแสนคลาสสิกนี้มา เสียเวลาและงบประมาณไปหลายตังค์ ทุบแล้วทุบอีกกว่าจะได้คลื่นสโลปอันนิ่มนวลชวนฝัน มีหลายลูกครับแต่ไม่ทันได้นับเพราะผมเองก็เพิ่งเคยเข้ามหาวิทยาลัยมหิดลที่ศาลายาเป็นครั้งแรก นึกได้ก็เลยนำมาเขียนให้อ่านกัน ทราบว่าที่มหาวิทยาลัยมหิดลค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับถนนมากทีเดียวและมีการประกวดตั้งชื่อถนนแต่ละเส้นภายในมหาวิทยาลัยด้วย
ถนนภายในมหาวิทยาลัยมหิดล
ส่วนที่มหาวิทยาลัยบูรพาเคยมีประกาศว่า “เมื่อช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา (ช่วงปี2551) ทางมหาวิทยาลัยบูรพาได้มีการเพิ่มลูกระนาดเป็นจำนวนมาก ทำให้สร้างความเดือดร้อนกับผู้ที่ใช้รถใช้ถนน อย่างไรก็ตามทางมหาวิทยาลัยเผยให้ทราบว่าการสร้างลูกระนาดนั้นเป็นการชะรอความเร็วของรถ ท่าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิโรจน์ เรืองประเทืองสุข กล่าวไว้ว่า “การ ที่บุคลากรต่างๆ ในมหาวิทยาลัยบูรพาทั้งภายนอกและภายใน จะขับขี่รถเป็นอย่างไรนั้นเราไม่สามารถไปบังคับได้ จึงฝากเตือนให้ระวังภัยด้วยตนเอง”
ลูกระนาดบนถนนก็คือ เครื่องมือการยับยั้งจราจรที่มีมาตรฐานหลายรูปแบบ ถ้าดูจากมาตรฐานของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย มีรายละเอียดดังนี้ครับ
แบบลูกเนินชะลอความเร็ว (Speed Hump) คือ พื้นที่ผิวจราจรที่ยกสูงขึ้นมีลักษณะโค้งเป็นรูปหลังเต่า ใช้ติดตั้งขวางทิศทางการจราจรเพื่อลดความเร็วของยวดยาน แต่ไม่เหมาะสมกับถนนที่มีปริมาณจราจรเกิน 500 คันต่อวัน ปกติลูกเนินชะลอความเร็วจะมีความยาว (ตามแนวทิศทางการจราจร) ประมาณ 3.4 - 4.0 เมตร ซึ่งจะแตกต่างกันจากลูกระนาดชะลอความเร็ว (Speed Hump) ที่มีความยาวสั้นๆ ลูกเนินชะลอความเร็วจะมีความสูงจากผิวจราจรประมาณ 7.5 - 10.0 เซนติเมตร และควรติดตั้งโดยมีระยะห่างประมาณ 80 - 130 เมตรลักษณะหน้าตัดขวางของลูกเนินชะลอความเร็วมีอยู่ 4 ลักษณะ คือ โค้งหลังเต่า (Sinusoidal) โค้งวงกลม (Circular) โค้งพาราโบล่า (Parabolic) และผิวบนแบนราบ (Flat-Topped)
ลักษณะของลูกเนินชะลอความเร็วโค้งพาราโบล่า
แบบวงเวียน (Roundabout) เป็นอุปกรณ์ที่เป็นเกาะกลางยกระดับจากพื้น ตั้งอยู่กลางทางแยกในพื้นที่พักอาศัยหรือถนนสายย่อย เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นทางแยกได้อย่างชัดเจนและลดความเร็วเมื่อเข้าสู่ทางแยก โดยเบนทิศทางการจราจรไปตามทิศทางเข็มนาฬิกาก่อนที่จะผ่านทางแยกไป อย่างไรก็ดี เพื่อให้รถฉุกเฉินขนาดใหญ่สามารถผ่านไปได้สามารถออกแบบเป็นวงเวียนที่รถสามารถไต่ขึ้นไปได้ (Mountable Traffic Circle)
รูปวงกลมจราจรที่สามารถไต่ขึ้นไปได้
การบำรุงรักษาเครื่องมือการยับยั้งจราจร จะต้องหมั่นตรวจตราอยู่เสมอ เพื่อป้องกันมิให้เกิด
การชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะลูกเนินชะลอความเร็วจะต้องตรวจสอบความสกปรกของเส้นสี เมื่อ
ตรวจสอบแล้วให้ดำเนินการทำความสะอาดโดยการขูดล้าง ปัดกวาดด้วยไม้กวาดให้สะอาดอยู่ในสภาพ
ชัดเจน หรือกรณีเลือนรางหลุดลอก ให้ดำเนินการขูดออกแล้วปรับผิวทางให้เรียบร้อยแล้วจึงทาสีเครื่องหมายจราจรใหม่ ดูมาตรฐานได้ที่
http://www.thailocaladmin.go.th/work/e_book/eb1/2_8.pdfส่วนอันนี้เป็นภาพในเฟสบุ๊คชื่อ “มั่นใจ เด็กราชมงคลเกิน1000 คนคิดว่าลูกระนาดในม.สูงเกินไป” ที่เจ้าของเอามาโพสไว้ ที่จริงไม่ได้มีเจตนาจะต่อว่ามหาลัยดังกล่าวหรืออะไรนะครับ เพราะเรื่องลูกระนาดนี่เป็นปัญหาทั่วไปที่พบเห็นได้ตามท้องถนนเข้าหมู่บ้านจัดสรร ตรอกซอกซอย ต่างๆ หรือตามสำนักงานราชการ โรงเรียน โรงพยาบาล บริษัทฯลฯ ให้พบเห็นกันแทบทุกที่
เฟสบุ๊คชื่อ “มั่นใจ เด็กราชมงคลเกิน1000 คนคิดว่าลูกระนาดในม.สูงเกินไป” แชร์ความอัดอั้นตันใจในการบริหารงานของ มหาลัยกันเลย บางคนถึงกับบอกว่าช่วงน้ำท่วมอยากเห็นลูกระนาดละลายไปกับน้ำ
ต้องขอขอบคุณ
ฝ่ายบริการวิชาการ siamsafety.com
เผยแพร่ครั้งที่ 1 : วันที่ 28 เมษายน 2555
เรามิได้มุ่งหวังผลประโยชน์ อยากเผยแพร่เพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวมครับ