โล่ง! ไฟไหม้บ่อขยะแพรกษารอบ 2 ไม่พบฝุ่น-มลพิษเกินค่ามาตรฐาน
"อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ"ให้ความมั่นใจ ไฟไหม้บ่อขยะแพรกษาปลอดภัย ค่าก๊าซพิษฝุ่น-ละอองไม่เกินมาตรฐาน แต่ยังหาต้นเพลิงไม่ได้ แนะชาวบ้านในพื้นที่เตรียมหน้ากากอนามัยไว้ใช้กรณีฉุกเฉิน ชุบน้ำก่อนใส่เพิ่มประสิทธิภาพได้
จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะ ภายใน ซ.แพรกษา 8 อ.เมืองสมุทรปราการ ปะทุขึ้นอีกครั้งช่วงเวลา 01.00 น.วันที่ 13 ก.พ. กินเนื้อที่กว่า 2 ไร่ จากทั้งหมด 20 ไร่ โดยจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากบ่อขยะเอกชน ที่เคยเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในเดือน มี.ค.ปี 57 ไม่ถึง 1 กม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมรถดับเพลิง และใช้เวลากว่า 6 ชม. ฉีดน้ำจนควบคุมเพลิงไว้ได้นั้น
วันที่ 13 ก.พ. นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า กับ "ไทยรัฐออนไลน์" ว่า ขณะนี้ไฟได้มอดหมดแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนการวัดค่ามลพิษในอากาศบริเวณที่เกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่กรมควบคุมพิษแจ้งว่า ไม่พบค่าที่เกินมาตรฐาน โดยเฉพาะในส่วนของก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะการเผาไหม้ของขยะมีไม่มาก และมีกระแสลมเข้ามาช่วย ส่วนลักษณะของขยะที่ทราบ เบื้องต้นเป็นขยะชุมชน แต่ไม่ทราบว่ามีขยะพิษปนเปื้อนอยู่ด้วยหรือไม่
"หากประชาชนที่อาศัยอยู่รอบบ่อขยะ มีข้อกังวลเรื่องการสูดดมก๊าซพิษและฝุ่นละอองนั้น แนะนำให้ติดหน้ากากอนามัยไว้ที่บ้าน เวลาเกิดเหตุการณ์บ่อขยะไฟไหม้ก็ให้ใส่ป้องกันได้ทันที ซึ่งถ้าจะให้มั่นใจก็ให้ซื้อแบบป้องกันก๊าซไข่เน่า หรือไม่ก็นำไปชุบน้ำก่อนใส่ หน้ากากจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันมากขึ้น" อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้นั้น ยังไม่ทราบ แต่ตำรวจกำลังเร่งหาความเป็นไปได้ ซึ่งปกติแล้ว เหตุไฟไหม้บ่อขยะมีไม่กี่เรื่อง เช่น เศษบุหรี่ร่วงขณะคุ้ยขยะ เผาสายไฟเอาโลหะแล้วลามไปติดอย่างอื่น ที่จงใจลักลอบเผาก็มี โดยเฉพาะขยะพิษที่เอามาแอบทิ้ง ส่วนเหตุขยะติดไฟเองแล้วขยายเป็นไฟ เกิดขึ้นได้น้อยมาก
นายวิเชียร กล่าวด้วยว่า เรื่องมาตรการป้องกันไม่ให้บ่อขยะเกิดไฟไหม้ ทั้งบ่อของเอกชนและรัฐนั้น ทางกรมได้ให้ความรู้ ให้คำแนะนำ ผ่านทางเทศบาลอยู่ตลอดว่าควรจัดทำรั้วรอบขอบชิด ไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป หรือทำคันดินป้องกันการลุกลาม บ่อไหนที่ยังไม่ถูกสุขลักษณะก็ควรแก้ไขให้ถูกต้องโดยเร็ว
http://www.siamsafety.com/index.php…