นำแผนรับเหตุฉุกเฉินที่ปลอดภัยกลับไปใช้ที่บ้านเมื่ออยู่ในที่ทำงานนั้น ทุกวินาทีมีค่าเสมอเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหนึ่งๆ ขึ้น คุณจะมีการฝึกอบรมและฝึกซ้อมภาคปฏิบัติอยู่เสมอเพื่อให้ทราบถึงวิธีการป้องกันอันตรายให้แก่ตนเองและลดความสูญเสียของทรัพย์สินให้เหลือน้อยที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะนำข้อดีของการฝึกซ้อมที่คุณได้รับจากที่ทำงานของตัวเองนี้กลับไปใช้ที่บ้านของตัวเองด้วยล่ะ? ไม่มีใครหรอกที่จะมาดูแลคุณและครอบครัวอันเป็นที่รักของคุณได้ปลอดภัยเมื่ออยู่ที่บ้านนอกจากตัวคุณเอง เมื่ออยู่ในที่ทำงานนั้น คุณจะอยู่อย่างปลอดภัยเพื่อคนข้างหลังที่รอคุณอยู่ที่บ้าน ดังนั้น เมื่อคุณอยู่บ้าน คุณก็จะต้องให้การป้องกันครอบครัวของคุณจากเหตุฉุกเฉินต่างๆ เช่นกันโดยการจัดทำแผนรับเหตุฉุกเฉินภายในบ้านขึ้นมาใช้รายการคำถามต่อไปนี้อาจช่วยคุณในการจัดทำแผนฉุกเฉินขึ้นมาใช้สำหรับครอบครัวของคุณให้ปฏิบัติตามแผนเมื่อเกิดอุบัติภัยต่างๆ ขึ้น ถ้าคำตอบของคุณกับคำถามเหล่านี้ส่วนใหญ่คือ “ใช่” ก็ถือว่าคุณมาถูกทางแล้ว แต่ถ้าคำตอบส่วนใหญ่หรือทั้งหมดคือ “ไม่ใช่” คุณจะต้องรีบจัดทำแผนฉุกเฉินที่บ้านขึ้นมาใช้โดยเร็ว
คุณมีแผนฉุกเฉินสำหรับบ้านของคุณหรือไม่? และแผนฉุกเฉินดังกล่าวมีความครอบคลุมในเหตุฉุกเฉินทั้งหมด เช่น อัคคีภัย พายุ น้ำท่วม เป็นต้น หรือไม่? และครอบครัวของคุณมีการฝึกซ้อมตามแผนดังกล่าวหรือไม่?
แผนการของคุณมีการระบุถึงเครื่องตรวจจับควัน ก๊าซและก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ไว้แล้วหรือไม่?
คุณมีระบบสัญญาณแจ้งเหตุหรือไม่ และสมาชิกทุกคนในครอบครัวของคุณทราบถึงความหมายของเสียงสัญญาณต่างๆ จากระบบดังกล่าวหรือไม่?สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวของคุณทราบถึงทางออกจากบ้านจำนวน 2 ช่องทางได้หรือไม่? ในกรณีที่ทางออกจากชั้นที่สองของบ้านทางที่สองคือหน้าต่าง คุณจำเป็นต้องมีบันไดนิรภัยเตรียมไว้หรือไม่? ในกรณีที่คุณอยู่บนอาคารสูง สมาชิกในครอบครัวของคุณทราบและมีการฝึกปฏิบัติการออกจากอาคารผ่านช่องทางออกทั้งสองช่องทางหรือไม่? (ระลึกไว้เสมอว่าลิฟท์จะไม่ใช่ทางออกในระหว่างที่เกิดอัคคีภัย)?สมาชิกทุกคนในครอบครัวของคุณสามารถทำการปลดล็อคหน้าต่างและประตูเพื่อหนีออกจากบ้านได้หรือไม่
ครอบครัวของคุณเข้าใจถึงวิธีการออกจากบ้านหรือการวิ่งไปยังจุดปลอดภัยเมื่อมีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น หรือไม่?
สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวของคุณทราบถึงสถานที่ที่จะไปพบกันหลังจากที่อพยพออกจากบ้านแล้วหรือไม่?
สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวของคุณทราบว่าจะต้องโทรไปหาใครเพื่อขอความช่วยเหลือหรือไม่? และมีการติดหมายเลขโทรศัพท์ไว้หรือไม่?
ในเหตุฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศนั้น ครอบครัวของคุณทราบถึงจุดปลอดภัยที่จะเข้าไปอยู่หรือไม่?
การวางแผนการอพยพและเครื่องจับควันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทุกคนออกจากบ้านได้อย่างปลอดภัย ได้มีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้แก่อุปกรณ์เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอหรือไม่?
ครอบครัวของคุณเข้าใจว่าเมื่อตนอยู่นอกบ้านอยู่แล้วนั้น พวกเขาก็ควรอยู่นอกบ้านต่อไป ไม่ควรเข้ามาภายในบ้าน ใช่หรือไม่?
คุณมีชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลหรือไม่ และในชุดอุปกรณ์ดังกล่าวมีอุปกรณ์พร้อมครบถ้วนหรือไม่?
คุณมีถังดับเพลิงในบ้านหรือไม่? และถังดับเพลิงดังกล่าวพร้อมใช้งานหรือไม่?
คุณได้ให้สมาชิกในครอบครัวของคุณได้เข้ารับฝึกซ้อมหรือฝึกอบรมเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลและการกู้ชีพ (CPR) หรือไม่?
ถ้าจำเป็น สมาชิกในครอบครัวของคุณทราบถึงวิธีการปิดระบบน้ำประปา ก๊าซและไฟฟ้าที่จะเข้ามาภายในบ้านของตัวเองหรือไม่?
แผนการของคุณมีการระบุถึงบุคคลที่จะต้องมีการโทรไปหาเมื่อเกิดปัญหาด้านระบบสาธารณูปโภคใดๆ ขึ้นหรือไม่?
ในบ้านของคุณมีผ้าใบหรือไม้อัดสำหรับปิดช่องเปิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากลมพายุหรือไฟที่ไหม้หรือไม่?
คุณมีไฟฉาย วิทยุสื่อสาร หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือไม่? และสิ่งสำคัญกว่านั้นก็คือ คุณมีแบตเตอรี่วางอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวทราบหรือไม่?
คุณมีบัญชีรายการและภาพถ่ายของสิ่งมีค่าต่างๆ ทั้งหมดในบ้านของคุณหรือไม่? คุณมีสำเนาของเอกสารเหล่านี้เก็บไว้นอกบ้านของคุณด้วยหรือไม่?
ทั้งนี้จำไว้ว่า คุณไม่สามารถทำนายได้ว่าเมื่อใดที่คุณและครอบครัวของคุณจะต้องเผชิญหน้ากับเหตุฉุกเฉินต่างๆ อย่างไรก็ตามคุณทราบดีว่าทุกวินาทีมีค่าเสมอเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ ขึ้น ดังนั้นคุณเองจะต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมเสมอสำหรับรับเหตุฉุกเฉินต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นและทำทุกวินาทีให้มีค่าเพื่อให้ครอบครัวของคุณปลอดภัย