ผู้เขียน หัวข้อ: ไฟไหม้ บ.บิสโก้ นิคมบางปูซอย 13 เสียหายราว 1,200 ล้าน (อ่าน 2372 ครั้ง)

winai.d · « **เมื่อ:** มิถุนายน 27, 2014, 11:54:30 PM »

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @ThanawatLive

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @nuttapong_Rw

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ไฟไหม้นิคมฯ บางปูซอย 13 เพลิงโหมไหม้โกดังสินค้าบริษัท Bisco ซึ่งผลิตเม็ดโฟม อย่างรุนแรง ล่าสุดคุมเพลิงได้แล้ว แต่ควันยังพวยพุ่ง ด้าน กนอ. คาดปิดคลังสินค้าเคลียร์พื้นที่ไม่นาน เผยมูลค่าความเสียหายทั้งตัวอาคาร และสินค้า ราว 1,200 ล้าน

วันนี้ (27 มิถุนายน 2557) เวลา 08.50 น. จส.100 รายงานว่า เกิดเหตุไฟใหม้คลังสินค้าคลังที่ 1 ของบริษัท Bisco ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเม็ดโฟม ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซอย 13 ซึ่งรถดับเพลิงของ อบต.บางปู ถึงที่เกิดเหตุและใช้น้ำเข้าควบคุมเพลิงแล้ว

โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียวโครงสร้างเหล็ก เปิดเป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟม ภายในตัวโรงงานมีถังสารเคมีเก็บอยู่ ซึ่งเพลิงได้ลุกไหม้จนเกิดกลุ่มควันไฟสูงกว่าตึก 10 ชั้น อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อเวลา 10.45 น. มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด เพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามไปบริเวณอื่น แต่ยังไม่สามารถทำให้เพลิงสงบได้ ทั้งนี้ ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ต่อมา เมื่อเวลา 11.11 น. มีรายงานระบุว่า เพลิงที่ควบคุมได้ในวงจำกัดก่อนหน้านี้ ได้โหมกระหน่ำอีกครั้ง เนื่องจากลมแรง ทำให้ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ซึ่งทางด้านกรมควบคุมมลพิษ เตือนให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง สวมหน้ากากป้องกันมลพิษในเบื้องต้น

อย่างไรก็ดี เมื่อเวลา 13.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ในนิคมฯ บางปู ว่าเจ้าหน้าที่ต้องประสาน กทม. นำรถโฟมจำนวน 15 ถัง ถังละ 25 ลิตร เพื่อดับเพลิง โดยขณะนี้ไม่มีแสงเพลิงแล้ว แต่กลุ่มควันมีอยู่จำนวนมาก ทั้งนี้ ทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กนอ. คาดการณ์ว่าจะปิดคลังสินค้าบางปูที่เกิดเพลิงไหม้ไม่นาน เพราะเป็นแค่โกดังเก็บสินค้า ส่วนโรงงานอื่นผลิตตามปกติ

สำหรับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ทวิตเตอร์ @Haji_AnnP รายงานว่า ทั้งตัวอาคารและสินค้า รวมแล้วมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท เลยทีเดียว

คลิป เร่งคุมเพลิงวอดโรงงานผลิตเม็ดโฟมในนิคมบางปู โพสต์โดย รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

ด่วน !!! ไฟไหม้โกดังเก็บสินค้านิคมฯ บางปู เพลิงลุกลามหนัก โพสต์โดย SpringNews สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @Chu_SpringNews

ไฟไหม้นิคมบางปูซอย 13 เพลิงโหมโกดังสินค้ารุนแรง
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @nuttapong_Rw

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @Chu_SpringNews

ไฟไหม้ บ.บิสโก้ นิคมบางปูซอย 13 ล่าสุดคุมเพลิงได้แล้ว

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @Chu_SpringNews

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

winai.d

ไหม้คลังสินค้า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลบางปูและใกล้เคียงร่วม 20 คัน ระดมฉีดน้ำดับไฟ

ไหม้โกดังเก็บสารเคมีขนาดใหญ่ บริษัท บางปู อินเตอร์ โมเดิล ซิสเต็มส์ จำกัด ซอย 13 บี นิคมอุตสาหกรรมบางปู ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ประเมินความเสียหายเบื้องต้นกว่า 1,200 ล้านบาท
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน2557 ร.ต.ท.นิพล คงพูล ร้อยเวร สภ.บางปูสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นของ บริษัทบางปู อินเตอร์ โมเดิล ซิสเต็มส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 596 หมู่ 4 ซอย 13 บี นิคมอุตสาหกรรมบางปู ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการหลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.วิชิต บุญชิน วุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู พร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางปูและเทศบาลใกล้เคียงกว่า 20 คัน เดินทางมาสมทบที่เกิดเหตุพบว่าเป็นโกดังเก็บสารเคมีขนาดใหญ่ชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิด ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 19 ไร่พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงและมีกลุ่มควันสีดำทะมึนมีกลิ่นเหม็นลอยพุ่งปกคลุมท้องฟ้าจำนวนมากพนักงานของโกดังที่เกิดเหตุได้ช่วยกันใช้รถโฟลค์ลิฟส์ มาทำการเคลื่อนย้ายถังเคมีที่บรรจุอยู่ในถังขนาด 200 ลิตรที่ตั้งอยู่ด้านหน้าโกดังที่เกิดเหตุออกจากตัวอาคาร ขณะทางด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอย่างสุดความสามารถแต่ไม่สามารถสกัดเพลิงเอาไว้ได้เนื่องจากภายในที่เกิดเหตุ มีเม็ดพลาสติกสำหรับผลิตโฟมและมีสารเคมีไวไฟ เก็บอยู่จำนวนมาก จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกโหมอย่างรุนแรงและกระจายทั่วไปทั้งโกดังที่แบ่งออกเป็น 25 ล็อกในขณะเดียวกันได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆ ส่งผลให้เกิดประกายไฟสีแดงขนาดใหญ่ลอยพุ่งสู่ท้องฟ้าจนเจ้าหน้าที่พากันแตกตื่น กระทั้งหลังคาตัวอาคารโกดังได้เกิดพังถล่มลงมา ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปดับไฟภายในโกดังได้ทำได้เพียงฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังโรงงานใกล้เคียง เท่านั้นขณะเดียวกันโรงงานที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุต่างพากันอพยพคนงานออกจากโรงงานหมดแล้ว ส่วนประชาชนที่อยูใ่ กล้เคียงไดน้ ำผ้ามาปิดจมูกเพื่อป้องกันควันเช่นกันแต่ยังไม่ได้มีการประกาศให้อพยพแต่อย่างใด ต่อมา เวลา 15.30 พบว่า กลุ่มควัน
เริ้มเจือจางลง แต่เจ้าหน้าที่ยังคงฉีดน้ำหล่อเลี้ยงตลอดเวลา ซึ่ง พ.อ.บุญชู กลิ่นสาครผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ นำกำลังทหารกว่า 30 นาย เข้ามาสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เหนื่อยล้าแต่เช้าด้วย รวมทั้งกำลังจากรมแพทย์ทหารเรือ เข้ามาดูแลสุขภาพของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง คาดว่าจะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ภายในวันนี้ ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้น นายณัฐ โพธิสุนทร กรรมการผู้จัดการบริษัท เปิดเผยว่า สูงถึง 1,200 บ้านบาทจากการสอบถาม นายสมบัติ คุ้มมี อายุ46 ปี หนึ่งในพนักงานโกดังที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและคนงานคนอื่นๆ ได้ทำงานกันอยู่ด้านหน้าโกดัง ประมาณ 40คน และได้พบเห็นกลุ่มควันและเปลวเพลิงลุกไหม้ออกมาจากห้องเย็นซึ่งอยู่ด้านหลังโกดัง ก่อนที่ไฟจะลุกลามอย่างรวดเร็ว ตน
และพนักงานได้พยายามช่วยกันเอาถังเคมีไฟช่วยกันฉีดสกัดเพลิงแต่ไม่สามารถสกัดเพลิงเอาไว้ได้เนื่องจากไฟได้ลุกลามออกมาลุกไหม้สารเคมีไวไฟแล้ว ก่อนจะพากันหนีตายออกมา และได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากสาเหตุใด ซึ่งจะได้เชิญตัวพนักงานและผู้เกี่ยวข้องมาทำการสอบสวนพร้อมทั้งได้ประสานเจ้า
หน้าที่วิทยาการเข้าตรวจสอบสาเหตุโดยละเอียดอีกครั้งต่อมา นายวีรพงษ์ ไชเพิ่ม ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เดินทางดูที่เกิดเหตุ และรับฟังการสรุปความคืบหน้าในการควบคุมเพลิง โดยให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ยังไม่ได้รับการรายงาน ซึ่งในโกดังนั้นมีเนื้อที่ประมาณ 9,000 ตรม.ส่วนใหญ่เป็นที่เก็บเม็ดพลาสติกเพื่อนำไปผลิตโฟม และมีถังสารเคมีจึง ทำให้เกิด กลุ่ม ไฟและควัน เป็นจำนวนมากขณะนี้มีรถดับเพลิงจากหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยระงับเหตุ แต่ก็ยังพบว่ายังมีควันไฟ
ปกคลุมหนาแน่นเบื้องต้นได้ประสาร บริษัทปตท.เพื่อนำโฟมมาช่วยสนับสนุนเพิ่ม เพื่อประสิทธิภาพในการดับเพลิงให้ได้มากขึ้นส่วนกลุ่มควันเป็นสีดำที่พบนั้น เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งอาจจะมีผลกระทบในเรื่องระบบทางเดินหายใจสำหรับผู้สูดดมขณะนี้ได้ปะสารทางเทศตำบลแพรกษา ได้เตรียมจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินไว้แล้ว ในส่วนสาเหตุอยู่นั้นได้รับการรายงานว่า เกิด
มาจากห้องทำความเย็นด้านหลังโกดังแต่ยังสามารถระบุสาเหตุได้ ส่วนเรื่องการขอนุญาติพบว่ามีเอกสารขอประกอบกิจการอย่างถูกต้อง และในเรื่องมาตรตระการป้องกันนับก็พบว่าทางโกดังสินค้าแห่งนี้มีการวางระบบระที่ดีอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องมาดูว่าจะมีการแก้ไขอย่างไรให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น เบื้องต้นได้ประสารทางกลมควบคุมมลพิษ เข้ามา ตรวจสอบ กลุ่มควันเพื่อหาค่าสารพิษปนเปื้อนทางอากาศนายวันชัย คงเกษม รอง ผวจ.สมุทรปราการ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สังการให้ทางเทศบาลตำบลแพรกษาได้เตรียมจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลืออพยพพักพิงสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกกลุ่มควันเพลิงไหม้ในครั้งนี้แล้ว ในส่วนมาตรการป้องกันเหตุเพลิงไหม้นั้น ทางนิคมอุตสาหกรรมได้มีการว่างมาตรการป้องกันที่ดีอยู่แล้วแต่ในส่วนจังหวัดนั้นก็ได้มีการนำรถดับเพลิงเข้ามาช่วยบูรณาการประสารให้เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมเพลิง ส่วนความเสียหายนั้นก็คงต้องปล่อยเป็นไปตามหน้าที่ของของการนิคมอุตสาหกรรมที่ต้องเข้ามาดูแล และก็ต้องดูไปตามแนวทางการสอบสวนว่าสารเคมีที่ได้นำมาเก็บไว้ที่ในโกดังแห่งนี้เป็นไปตามใบอนุญาตที่ได้มีการระบุไว้อย่างถูกต้องชัดเจนหรือไม่ ซึ่งตรงนี้คงต้องมาดูในเรื่องเอกสารทั้งหมดว่าสารเคมีชนิดใดบ้าง และมีจำนวนเท่าไหร่สำหรับการตรวจวันค่าสารพิษทางอาการของ กรมควบคุมลพิษ พบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุ มีค่าสารซันเฟอร์ได้ออกไซด์ สารอินทรีย์ระเหยง่าย (วี โอ ซี) และสารสไตรีนเกินค่ามาตรฐานเล็กน้อย ซึ่งสารดังกล่าวถ้าหายใจเข้าไป จะผลกระทบในเรืองระคายจมูกและคอ ปวดศีรษะ มึนงง อ่อนเพลียคลื่นไส้ และมึนเมา ถ้าได้รับสารปริมาณสูงจะชักและเสียชีวิตได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ทำงานอยู่ในที่เกิดเหตุจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องป้องกัน ส่วนในชุมชนละแวกใกล้เคียงพบค่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ เมื่อช่วงเย็นของวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทาง ไปสำรวจบริเวณหมู่บ้านรุ่งทวี และโครงการบ้านเอื้ออาทรแพรกษา พบว่ามีหมอกควันลอยฟุ้งกระจายอยู่หลายจุด ซึ่งทางเทศบาลตำบลแพรกษาได้นำรถติดเครื่องขยายเสียงออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุอพยพไปอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย พร้อมกับนำผ้าปิดจมูกออกแจกจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ขณะเดียวกันมีประชาชนบางส่วนซึ่งเป็นเด็กและคนชรา ได้ย้ายนออกมาอยู่ที่ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย แล้วกว่า 100 คน ซึ่งทาง นายยงยุทธ สุวรรณบุตรนายเทศมนตรีตำบลแพรกษา ได้นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มาบริการตรวจร่างกายในเบื้องต้น นำอาหารเครื่องดื่ม มาบริการ และแจกข้าวสารให้กับผู้ประสบภัย ส่วนอาการพบว่ามีอาการค้างเคียงจาการสูดดมควัน
หายใจติดขัด แสบตาคอและจมูก