31
ข่าวอุบัติเหตุ อาชญากรรม ทั่วไป ภายในจังหวัดสมุทรปราการ / เพลิงไหม้โรงงานผสมสีที่อำเภอบางพลี สมุทรปราการ เช้ามืดวันที่17ก.ย.2559
« เมื่อ: กันยายน 22, 2016, 01:45:00 PM »เพลิงไหม้โรงงานผสมสีที่อำเภอบางพลี สมุทรปราการ สารเคมีไวไฟจำนวนมาก กลายเป็นเชื้อเพลิง ไฟลุกโหมหนัก เผาวอดไปแล้ว 2 โกดัง และมีเสียงระเบิดขึ้นเป็นระยะ ๆ เบื้องต้นคาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
โดยเหตุเกิดเมื่อเมื่อเวลา 05.45 น. (17 ก.ย.) ภายในบริษัท ยูอาร์ เคมีคอล จำกัด และ บริษัท อุไรพานิชย์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 81 หมู่ที่ 11 ซอยธนสิทธิ์ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงงานและโกดังผลิตและเก็บสีจำนวนมากบนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้นและโกดังแบบชั้นเดียว พบเพลิงกำลังลุกโหมอย่างรุนแรงและมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ เนื่องจากภายในเก็บวัตถุประเภทน้ำมันเตา น้ำมันสน และน้ำมันเรซิ่น รวมถึงน้ำมันเมธานอลที่บรรจุอยู่ในถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร กว่า 300 ใบ และถังเก็บขนาดใหญ่อีกกว่า 30 ถัง รวมกว่า 300,000 ลิตร ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจึงทำให้เกิดลูกไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นระยะ ๆ ชาวบ้านและพนักงานต่างพากันวิ่งหนีตายอลหม่าน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 4 ชั่วโมง ยังไม่สามารถควบคุมได้ เพลิงได้ลุกลามไปไหม้บริษัท นำดีวัฒน์ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตสีเช่นกันได้รับความเสียหาย
640x390_718542_1474191144
ตร.เข้าตรวจเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตสี คาดเสียหาย500ล้าน
ผกก.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สมุทรปราการ เข้าตรวจหาสาเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตสี ย่านบางพลี เสียหายไม่ต่ำกว่า500ล้าน
จากกรณีเมื่อช่วงเช้ามืดของวานนี้ (17ก.ย.) ได้เกิดเหตุไฟไหม้ภายในบริษัท ยูอาร์ เคมีคอล จำกัด และบริษัท อุไรพาณิชย์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตสีขนาดใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 81 หมู่ 11 ซอยธนสิทธิ์ แยก 4 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
โดยเพลิงได้ลุกโหมอย่างรุนแรงกว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ใช้เวลานานกว่า 8 ชั่วโมง ค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
ความคืบหน้าในวันนี้ที่ 18 กันยายน 2559 เวลา10.00น. พ.ต.อ.สมภพ พุฒศรี ผกก.กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมกำลังและอุปกรณ์เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุไฟไหม้เมื่อวานนี้ เพื่อเก็บหลักฐานและวัตถุพยานหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ซึ่งพบว่าบางจุดยังคงมีการฉีดน้ำยาโฟรมเลี้ยงไว้ตลอดเวลาเนื่องจากภายในที่เกิดเหตุยังคงมีความร้อนสะสมอยู่เกรงว่าจะเกิดเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นอีก โดยบางจุดยังพบว่ามีบางจุดยังมีกลุ่มควันโพยพุ่งออกจากตลอดเวลา
ขณะเดียวกันตัวโครงสร้างของอาคารโรงงานยังคงต้องรอเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าจะสามารถใช้งานได้ต่อหรือไม่ พร้อมทั้งปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุเอาไว้ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องร่วมทั้งสื่อมวลชนเข้าที่เกิดเหตุ โดยอ้างว่าเกรงว่าจะได้รับอันตราย อนุญาตให้เพียงเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบได้เท่านั้น