แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - winai.d

หน้า: [1] 2 3 ... 76
1
สวัสดีครับ

         ต้องขอขอบคุณ ผู้บริหารชาวญี่ปุ่นบริษัท เอ็นดีที (ประเทศไทย) เป็นบริษัทนำเข้าเครื่องกลหนัก มือ ทุกประเภท จากญี่ปุ่น อเมริกา และ ยุโรป ที่ให้โอกาสไปเผยแพร่ความรู้หลักสูตร 5 ส เพื่อเพิ่มผลผลิตและเทคนิคทำมาตรฐาน 5 ส สัปดาห์ที่ผ่านมาเจาะลึกทุก ส พร้อมตัวอย่างภาพ คลิป อย่างละ เหมาะกับบริษัทที่จะเริ่มทำ หรือทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ

           สื่อเข้าใจง่าย ทำได้จริง  เห็นผลการเปลี่ยนแปลงแน่นอนครับ

2
สวัสดีครับ...
      ขอนำมาเผยแพร่ต่อครับ
แนวการจัดทำแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย

3
สวัสดีครับ
       เราจะทำสภาพแวดล้อมในการทำงานของเรา ให้มีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยได้อย่างไร  ผมอ่านหนังสือ TPA news  เกี่ยวกับ 5 ส และ Kaizen  เห็นว่า เป็นประโยชน์อย่างมาก ถ้าเรานำมาขยายผลต่อ  หลายคนผมเชื่อว่า คงไม่ได้อ่านหนังสือ นี้  เพราะต้องเป็นสมาชิก แต่ สสท เขาก็ทำเป็นหนังสือออนไลน์เข้าไปอ่านได้ครับ  ขอบคุณในน้ำใจ ของสมาคมฯ  ที่เผยแพร่ให้คนอื่นได้รู้และเข้าใจ นำไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงานของท่าน
       ผมขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปัญหาต่างๆ จะค่อยนำมาเป็นตัวอย่างให้เป็นกรณีศึกษากันนะครับ  โปรดติดตามกันด้วยนะครับ
 เราคงพบปัญหา สายไฟฟ้าที่เราจำเป็นต้องใช้ บางครั้ง บางคราว เราแก้ไขปัญหาได้ ....
 www.welovesafety.com

4
เมื่อเวลา 07.20 น. รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บริษัท ลัคกี้เท็คซ์ (ไทย) จำกัด (มหาชน) โรงงาน 3 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง สมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

ล่าสุดรถดับเพลิงเทศบาลบางปู ใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้และค่าเสียหายอยู่ระหว่าตรวจสอบ พื้นที่ สภ.บางปู

หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมข่าวสารเมืองปราการจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ขอบคุณภาพ สมาชิกข่าวสารเมืองปราการ

5
วันที่ 14 ก.พ. พ.ต.ท.ศิวะ ริมฝาย สว.(สอบสวน) สภ.บางปู รับแจ้งเหตุไฟไหม้ ภายในบริษัท ไลท์เทค อีเลคโทรนิค (ไทยแลนด์) จำกัด เลขที่ 904 ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมส่งออก ซ.นิคมบางปู อี 8 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงกว่า 15 คัน


ที่เกิดเหตุพบเป็นโรงงานผลิตหลอดไฟส่งออกต่างประเทศขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ พบแสงเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ภายในตัวอาคารสูง 2 ชั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปภายในตัวอาคารได้เนื่องจากมีประตูเหล็กม้วนปิดล๊อกอยู่ มีเพียงกลุ่มควันดำทะมึนพวยพุ่งออกมาจากภายในเป็นจำนวนมาก พนักงานของบริษัทดังกล่าวได้นำรถโฟล์คลิฟท์ มาพุ่งชนประตูเหล็กจนพังจึงสามารถเปิดประตูออกได้ เจ้าหน้าที่พบว่าเปลวไฟกำลังลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างและชั้นลอยที่มีการต่อเติมเอาไว้เก็บสินค้าและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตหลอดไฟและกล่องกระดาษทีใช้สำหรับ บรรจุสินค้าที่เก็บเอาไว้จำนวนมากจึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี


ขณะเดียวกันตัวอาคารได้เกิดการแตกร้าวเนื่องจากถูกความร้อนจากไฟที่ลุกไหม้เป็นเวลานานจึงทำให้ตัวผนังอาคารเกิดการแตกร้าวและมีเสียงลั่นอยู่ตลอดเวลาและมีทีท่าว่าจะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันระดมฉีดน้ำอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบเบื้องต้นพบ สินค้าและอุปกรณ์ในการผลิตพร้อมเครื่องจักรอีกจำนวนหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นล่าง ถูกไฟลุกไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท

จากการสอบสวน นายแดง เมืองสน อายุ 40 ปี รปภ.ที่ป้อมหน้าโรงงาน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนนั่งปฎิบัติหน้าที่อยู่ที่ป้อมยามประตูทางเข้าออก ซึ่งขณะนั้นไม่มีใครทำงานอยู่ภายใน เนื่องจากคนงานเพิ่งเลิกงานตอนประมาณ 3 ทุ่มของวันก่อน(13ก.พ.) จู่ๆมีกลุ่มควันดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากภายในอาคารโรงงาน จึงรีบออกไปดู ก่อนพบว่า ไฟกำลังลุกไหม้โซนที่ใช้เก็บกล่องกระดาษที่วางกองอยู่หน้าลิฟต์ทางขึ้นชั้นบน และลุกลามเข้าไปด้านในโรงงาน ตนจึงรีบวิ่งขึ้นไปตามหุ้นส่วนของโรงงานที่พักอาศัยอยู่ที่พักชั้น 2 พร้อมแจ้งว่าไฟไหม้โรงงาน หุ้นส่วนชาวไต้หวัน ได้พยายามเข้าไปภายในโรงงานแต่เข้าไปไม่ได้ เนืองจากประตูเปิดไม่ได้เพราะเป็นระบบไฟฟ้า จึงตัดสินใจทุกบานกระจกจนแตกและปีนเข้าไปตรวจดูด้านในจึงพบว่า เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงและลุกลามไปอย่างรวดเร็วจึงรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ


พ.ต.ท.ศิวะ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจึงทำให้เกิดเปลวไฟและลุกไหม้ไปที่กองลังกระดาษที่อยู่ด้านข้างก่อนลุกลามอย่างรวดเร็วและไปติดสินค้าและกองวัสดุที่เก็บอยู่ภายในจนได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเจ้าตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสรุปหาสาเหตุก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณแหล่งข่าว
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_753526

6
หนีระทึก! ก๊าซแอมโมเนียห้องเย็นแช่แข็งอาหารทะเล สมุทรปราการ รั่วไหล คนงาน-ประชาชนหนีตายออกที่โล่งจ้าละหวั่น

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 15 มกราคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีก๊าซแอมโมเนีย รั่วไหล ภายในบริษัท สหไทยห้องเย็น จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ถนนหน้าฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ต.ท้ายบ้าย อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และรถดับเพลิงเทศบาลบางปูพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางเข้าตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุเป็นห้องเย็นขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ที่ห้องเครื่องควบคุมความเย็นของบริษัทดังกล่าว ซึ่งอยู่ด้านหลังได้มีก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลออกมาจำนวนมากมีลักษณะเป็นหมอกควันสีขาวลอยฟุ้งออกมาจากห้องควบคุมด้านในส่งกลิ่นเหม็นคละคุ้งไปทั่วบริเวณ ทำให้ไก่ที่เพาะเลี้ยงไว้ในสุ่มไก่จำนวนหลายตัวที่สูดดมก๊าซแอมโมเนียเข้าไปทำให้หมดสติเสียชีวิตไปจำนวนหลายตัว ส่วนคนงาน และชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้ที่สูดดมก๊าซแอมโมเนียเข้าไปต่างมีอาการแสบคอแสบตา และเวียนศีรษะบางรายถึงกับอาเจียนออกมา


เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพได้ไห้การปฐมพยาบาลจนอาการดีขึ้น ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ฉีดพ่นน้ำทำเป็นม่านน้ำเพื่อสลายก๊าซแอมโมเนียให้เจือจางไปในอากาศ โดยมีผู้ชำนาญการด้านก๊าซแอมโมเนีย และช่างประจำบริษัทได้พยายามเข้าไปทำการปิดวาล์วของถังก๊าซแอมโมเนียที่รั่วไหลออกมา โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถเข้าทำการปิดวาล์วหัวถังของก๊าซแอมโมเนียได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะเข้าทำการพ่นน้ำเพื่อสลายก๊าซแอมโมเนีย

จากการสอบถามนายสมพงษ์ เงี้ยว อายุ 58 ปี ช่างประจำบริษัทได้เล่าว่า ในวันนี้ตนได้ให้ผู้ช่วยช่างคนใหม่เข้าไปทำการเดนน้ำมันออกจากถังก๊าซแอมโมเนีย แต่ลืมสต๊อปวาล์ว วาล์วมันเลยเปิดตลอด ด้วยความที่เป็นเด็กใหม่มันเลยตกใจ และรีบวิ่งหนีออกมา แต่ตัววาล์วไม่เสียแน่นอน เพียงแค่ลืมปิดในขณะที่ทำการเดนน้ำออกจากระบบเท่านั้น แต่ที่เข่าไปปิดไม่ได้เพราะอุปกรณ์ในการป้องกันอยู่ในห้องที่เกิดเหตุทั้งหมดเข้าไปเอาออกมาไม่ได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้เข้าทำการตรวจสอบอีกครั้งหลังเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ และจะได้เชิญตัวผู้ช่วยช่างที่เข้าไปทำงานในขณะเกิดเหตุมาทำการสอบปากคำ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

7
ปทุมธานี 6 ม.ค.-เสียบปลั๊กชาร์จแบตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กทิ้งไว้ ทำไฟช็อตไหม้บ้านหวิดวอดทั้งหลัง โชคดีเพื่อนบ้านมาช่วยดับไฟทัน

เมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ.ดล ชูเกลี้ยง ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในหมู่บ้านพรทวีวัฒน์ 2 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองคลองหลวงไปที่เกิดเหตุ เป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เลขที่ 99/2592 พบต้นเพลิงอยู่ภายในห้องนอนชั้น 2 เพื่อนบ้านกำลังช่วยกันใช้น้ำและถังเคมีดับไฟอยู่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำเพื่อระบายความร้อน



จากการสอบถามนายศุภกร เครือทองศรี อายุ 18 ปี เพื่อนบ้านที่เข้ามาช่วยดับไฟ บอกว่าตนอยู่ข้างบ้านที่เกิดเหตุ เห็นไฟลุกออกมาจากชั้น 2 ของบ้านที่เกิดเหตุ จึงขึ้นไปช่วยดับไฟ เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบว่าไฟกำลังลุกไหม้ออกมาจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่เสียบปลั๊กชาร์จไฟอยู่ ตนจึงใช้ถังเคมีฉีดดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ไฟจึงดับลง

ด้าน ร.ต.อ.ดล ชูเกลี้ยง ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไฟไหม้เพดานเสียหายบางส่วน สาเหตุนั้นจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป.-สำนักข่าวไทย


8
รมว.แรงงานทำงานวันแรก ลงพื้นที่เยี่ยมศูนย์ฯเมียนมา สมุทรปราการ
วันที่ 1 ธันวาคม 2560 - 13:27 น.


เมื่อเวลา 06.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางเข้ามาทำงานที่กระทรวงแรงงานเป็นวันแรก หลังจากเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 30 พฤศจิกายน พล.ต.อ.อดุลย์ ได้เดินทางเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง โดยภารกิจแรกหลังเข้ารับตำแหน่งนั้นได้มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจศูนย์พิสูจน์สัญชาติแรงงานเมียนมา จ.สมุทรปราการ

ต่อมา เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อดุลย์พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงานเดินทางไปยังศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคลสัญชาติเมียนมา จ.สมุทรปราการ ตั้งอยู่บริเวณถนนเทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยได้เดินตรวจเยี่ยมศูนย์ฯ อย่างละเอียดในทุกขั้นตอนการออกเอกสาร และเข้าทักทายแรงงานเมียนมาที่เดินทางมาออกเอกสารภายในศูนย์อย่างใกล้ชิด ก่อนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน



โดยิพล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า จากการตรวจสอบการทำงานของศูนย์ฯ ในเบื้องต้นพบขั้นตอนการออกเอกสารใช้เวลามาก เมื่อเทียบกับจำนวนแรงงานทั้งหมด 2 ล้านคน ได้เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติเพียง 8 แสนคนเท่านั้น เหลือการพิสูจน์สัญชาติอีก 1.2 ล้านคน สำหรับศูนย์ตรวจสัญชาติรวม 9 ศูนย์นั้น ปัญหาที่พบคือ มีขั้นตอนล่าช้า จำเป็นต้องมีแนวทางเพิ่มเติม อย่างการบริการจัดการระบบที่ดี เพื่อให้ระบบและขั้นตอนต่างๆ ใช้เวลาได้อย่างรวดเร็วและอำนวยความสะดวกแรงงานให้มีประสิทธิภาพ สำหรับศูนย์พิสูจน์สัญชาติฯ ภายในได้มีการให้บริการหลายส่วน ตั้งแต่การเก็บหลักฐาน รวบรวมเอกสาร และตรวจสุขภาพ จำเป็นต้องปรับปรุงระบบทั้งหมดให้เป็นเอกภาพ เพื่อให้เสร็จสิ้นภายในกรอบเวลาคือ 31 มีนาคม 2561 เพราะหากล่าช้าก็คงเกิดปัญหาอีก ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องแก้ไขในเบื้องต้นคือ ต้องมีประธานบริหารจัดการศูนย์แรงงาน โดยได้ตั้งนายเชิดศักดิ์ วิสุทธิกุล จัดหางานจังหวัดสมุทรปาการ เพื่อจัดระบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การพิจารณาออกบัตรคิวเข้าสู่กระบวนการของทางการพม่า ตลอดจนการปรับปรุงสถานที่ให้สะอาดเรียบร้อย มีห้องสุขาบริการ


พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวอีกว่า “ที่ผ่านมาพบงานที่มีบัตรคิวใช้เวลาพิสูจน์สัญชาติถึง 13-14 ชั่วโมง แรงงานที่ไม่มีบัตรคิวใช้เวลา 2-3 วัน ส่วนปัญหาการขายคิวจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข”


เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่พม่าได้เข้ามาดำเนินการส่วนใดบ้าง พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ทางการพม่าได้เข้ามาดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐาาน การตรวจสอบข้อมูล ส่วนไทยก็ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ด้านสาธารณสุข หากถามว่าจะมีการคาดโทษเจ้าพนักงานหากทำงานไม่ตรงตามกรอบเวลา 31 มีนาคมนั้น อย่างไรก็ตาม รับปากว่าจะทำให้ทัน ส่วนการคาดโทษเจ้าพนักงานนั้นจะขอพิจารณาก่อน


https://www.matichon.co.th/news/750671

9
ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 14:18 น.

เกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมัน ระเบิดในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่เร่งดับ พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ

นายศิวกร บัวป้อง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.50 น. ตนได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุรถเทรลเลอร์ บรรทุกน้ำมัน ระเบิด ภายในโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เบื้องต้น มีรายงานว่า 3 คน แต่คาดว่าจะมีเพิ่มเติมอีก โดยตนกำลังลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งควบคุมสถานการณ์

 

ทางด้าน พ.ต.ต.วศิน กล้าวิกรณ์ สว.สอบสวน สถานีตำรวจภูธรดอนหังฬ่อ จ.ชลบุรี เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ว่าที่เกิดเหตุเป็นโรงงานกลั่นน้ำมัน ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่รถบรรทุกน้ำมัน ที่กำลังจอดเพื่อถ่ายน้ำมัน  ซึ่งขณะเกิดเหตุมีเสียงระเบิดดังเกิดขึ้นเป็นระยะ นอกจากนี้เพลิงได้ลุกลามไปยังรถคันอื่นที่จอดใกล้เคียงอีก 1 คัน โดยเจ้าหน้าที่เร่งระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ฉีดน้ำสกัด ใช้เวลาไม่นานสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ ความเสียหายรถบรรทุกจำนวน 2 คัน ส่วนตัวอาคารไม่มีผลกระทบ เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว 1-2 คน อาสากู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว

 

ส่วนสาเหตุสันนิฐานว่าน่าจะเกิดสะเก็ดไฟใกล้กับจุดจ่ายน้ำมัน ทำให้เกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงฉีดน้ำเลี้ยงเพื่อป้องกันการเพลิงไหม้ทะลุขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนประสานให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุต่อไป

 

เครดิต เอกชลบุรี

เกิดเหตุรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกน้ำมันระเบิดภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี เฟส 2 บริเวณบริษัท SEAOIL หลังบริษัท มิตซุยไกติ้ง เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำควบคุมเพลิง ล่าสุดสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ขณะที่โรงงานข้างเคียงสั่งอพยพพนักงาน

10
สวัสดีครับ

            ต้องขอขอบคุณ น้อง HR  และผู้บริหาร Smilebull Marketing Co.,Ltd  บางรักใหญ่ บางบัวทอง นนทบุรี ที่ให้โอกาสผมไปเผยแพร่ความรู้ หลักสูตร 5 ส เพื่อเพิ่มผลการผลิต และเทคนิคการทำมาตรฐาน 5 ส.

11
สวัสดีครับ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณวันเพ็ญ HR น้องจป.... และผู้บริหาร บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด มหาชน เขาย้อย เพชรบุรี เมืออาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ให้โอกาส ไปเผยแพร่ แชร์ประสบการณ์ด้านกิจกรรมความปลอดภัย หลักสูตร BBS การปลูกฝังพฤติกรรมความปลอดภัย เราทุกคนร่วมกันสร้าง ช่วยกันเตือน ชมเชยคนทำพฤติกรรมปลอดภัย แนะนำคนที่ประพฤติพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย ช่วยกันค้นหาพฤติกรรมเสี่ยง เลือกพฤติกรรมเสี่ยงที่อันตรายที่เห็นว่าลำดับสำคัญมาก แล้วมาระดมสมองกันหามาตรการป้องกัน ซึ่งทุกต้องรู้ว่า จะต้องประพฤติ ปฏิบัติอย่างไรให้ปลอดภัย ซึ่งจะต้องวิเคราะห์แนวโน้มทางสถิติ โดยการเก็บข้อมูล จากการสังเกตของเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้างาน หรือ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ชมเมื่อทำดี แนะนำเมื่อพบว่ามีพฤติกรรมเสี่ยง ก็ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน เพื่อทราบแนวโน้มพฤติกรรมความปลอดภัยของพนักงานในช่วงระยะเวลาต่างๆ ซึ่งช่วงแรกพฤติกรรมความปลอดภัยมีเปอร์เซ็นต์น้อย ก็อย่าเพิ่งตกใจ เพราะเรายังไม่ได้มาตรการ แนวทางการสร้างพฤติกรรมความปลอดภัย หลังจากเราเริ่มโครงการ ดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อนร่วมงานก็เปรียบเสมือน ญาติพี่น้องเรา เราก็ต้องช่วยพูดให้คิด คิดก่อนทำ ชมเชย และแนะนำ ให้เขาเปลี่ยนทัศนคติ ปรับวิธีการ เพื่อนให้ปลอดภัย เพราะอุบัติเหตุส่วนใหญ่ เกิดจากการกระทำที่ไม่ปลอดภัย ก็คือ ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่สวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล หรือ PPE นั่นเอง กำหนดเป้าหมาย เพื่อวัดผลการดำเนินการโครงการ เมื่อทุกคนร่วมกันสร้าง ปลูกฝังพฤติกรรมความปลอดภัย อุบัติเหตุย่อมเป็น ศูนย์ ทำกันทั้งองค์กร ก็จะกลายเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัย แบบหยั่งยืน win to win เมื่อองค์เจริญรุ่งเรือง ก้าวไกล ชีวิตพนักงานก็มีคุณค่า มั่นคง.... เพราะทุกคนช่วยกัน....
สนใจก็ติดต่อมาได้นะครับ ผมมุ่งมั่น ตั้งใจจริงๆ ในการเผยแพร่ จากประสบการณ์การทำงานจริง ร่วม 30  ปี   www.welovesafety.com



 


12
หลักสูตร BBS การปลูกฝังพฤติกรรมความปลอดภัย
เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพในสายการผลิต
ทำอุบัติเหตุให้เป็น " ศูนย์" ด้วยวิธี BBS
Behavior Based Safety
หลักสูตร การปลูกฝังพฤติกรรมความปลอดภัย

จุดเริ่มต้น... ของอุบัติเหตุในการทำงาน... HUMAN ERROR !!! จะต้องแก้ไขอย่างไร? โดยเฉพาะพฤติกรรมการทำงานที่... เสี่ยง
ไม่ปลอดภัยของพนักงาน เช่น รีบร้อน เคยชิน อ่อนเพลีย อารมณ์เสีย ตามองไม่เห็น ใจไม่จดจ่อ เสียการทรงตัว อันเป็นเหตุ
ของการผิดพลาด และเกิดการสูญเสียในการทำงานทั้งสิ้น
สร้าง... จุดแข็งของทีมงาน จุดแข็งของสายการผลิต จุดแข็งขององค์กร คือการปฏิบัติงานโดยปราศจากอุบัติเหตุ!! เพราะ..องค์กรใด?
ที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุจากการปฏิบัติงาน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการแข่งขันเหนือกว่าคู่แข่ง !!
อุบัติเหตุต่างๆ...การเสียชีวิต...ทุพพลภาพ นั้น ท่านรู้หรือไม่? ว่า นอกจากสร้างความเสียหายให้กับตัวพนักงาน
และองค์กร แล้วยัง...บั่นทอนความรู้สึก จิตใจ สุขภาพของคนงาน ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เพราะฉะนั้น...ควรป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ!!
คุณรู้หรือไม่ว่า...มีอันตรายอะไร? ซ่อนเร้นอยู่ในการปฏิบัติงานบ้าง ?
พูดให้เขาได้คิด .... ดีกว่า สั่งให้เขาทำ .....
การให้พนักงานได้คิดเอง ย่อมดีกว่าที่เราไปบอกทั้งหมด ....
รู้จักฟัง อธิบาย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่ยอมรับได้ของทั้งสองฝ่าย
สร้างจิตสำนึก...สร้างพฤติกรรมในด้านความปลอดภัยร่วมกันกับพนักงานภายในองค์กรได้อย่างไร?
หลักการ
การปลูกฝังพฤติกรรมความปลอดภัย, Behavior-based safety (BBS) เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่เป็นที่ยอมรับ
อย่างกว้างขวางว่าสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุ การได้รับบาดเจ็บได้จริง และช่วยส่งผลต่อการสร้างวัฒนธรรม
ความปลอดภัยในองค์กร เมื่อพนักงานทุกคนเข้าใจหลักการและนําไป BBS ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง
BBS อาศัยหลักการทางจิตวิทยา และวิทยาศาสตร์ในการส่งเสริมพฤติกรรมที่นําไปสู่ความปลอดภัย แต่
น่าเสียดายที่หลายองค์กรไม่ได้นํามาใช้อย่างต่อเนื่อง และไมได้เพิ่มพูนประสิทธิภาพให้มัน หรือไม่ได้ทําให้มัน
ยั่งยืน หรือได้ยินมาว่า BBS ไม่เหมาะกับพฤติกรรมของคนในประเทศของเรา ซึงถ้าเรามีความเชื่อเช่นนี้ แล้วเราก็
ไม่มีทางที่จะทําให้มันประสบความสําเร็จได้เลย ดังนั้นการทําให้ BBS ประสบความสําเร็จผู้ที่รับผิดชอบจำเป็น
ต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน และต้องเชือว่าทําได้ และพยายามทําอย่างต่อเนื่องไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย
ความไม่ย่อท้อย่อมนํามาสู่ความสําเร็จในลดอุบัติเหตุในองค์กร
ดังนั้นหลักสูตรนี้จึงออกแบบมาเพื่อให้เกิดความเข้าใจเรื่อง BBS อย่างถ่องแท้ รวมถึงเหตุและผล
กระบวนการนําไปใช้ และการแก้ปัญหา พร้อมการฝึกปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่า BBS ไม่ใช่เพียงแค่การทํา
การสังเกต (observation) เท่านั้น
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ทราบถึงหลักการของ BBS ความสําคัญ และการนําไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เพื่อให้ทราบเทคนิคในการสื่อสาร การจูงใจ ให้เกิดพฤติกรรมความปลอดภัย
3. เพื่อให้ทราบเทคนิคการสังเกตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการเกิดพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยซ้า
4. เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ที/เกิดจากทัศนคติความปลอดภัย และจิตสํานึกที่ดีของสมาชิกใน
องค์กร อันเป็นหัวใจหลักของการวางรากฐานของพฤติกรรมความปลอดภัย


หัวข้อบรรยาย
-  หลักในการทำให้อุบัติเหตุเป็น ศูนย์ ZERO ACCIDENT
-  องค์กรทุกๆองค์กร คาดหวังอะไรจากการทำงานของพนักงาน
-  5 W 1 H
-  แนวคิดเดิมความปลอดภัยให้ความสำคัญกว่าส่วนอื่นๆ ....
-  ความแตกต่างและความหมายของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในการปฏิบัติงาน
        -  INCIDENT อุบัติการณ์
        -  ACCIDENT อุบัติเหตุ
        -  NEAR MISS เหตุการณ์ที่เกือบจะเกิดอุบัติเหตุ
- ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเกิดอุบัติเหตุ
- ความสูญเสียทางตรง
- คามสูญเสียทางออ้อม
 
-  BBS คือ อะไร, ทําไมต้อง BBS, พฤติกรรมทีไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นได้อย่างไร
-  การสร้างพฤติกรรมความปลอดภัย (C.O.A.C.H process )
-  เทคนิคการสื่อสาร และจูงใจ (Communication and motivation)
-  จิตสำนึกความปลอดภัยในการทำงาน ( Behavior Based Safety : BBS )

-  แนวคิดเดิมความปลอดภัยให้ความสำคัญกว่าส่วนอื่นๆ ....

-  พูดให้คิดก่อน ดีกว่าบอกให้เขาทำ....

-  ABC Model เพื่อการวิเคราะห์พฤติกรรม ตามแนวทาง BBS
-  เทคนิคการสังเกต (BBSO Process) และควบคุมพฤติกรรมไม่ปลอดภัย และการแก้ปัญหา
-  การริเริ่ม (BBS initiative) และนํา BBS ไปใช้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

-  ตัวอย่างโรงงานที่ทำ โครงการ BBS ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว มาให้ดูและศึกษากันก่อนทำจริง
-  Work Shop : กิจกรรมย่อยนำพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายในบริษัทของท่านมาทำกัน  แบ่งกลุ่มตามแผนกหรือลักษณะงาน

     ค้นหาพฤติกรรมเสี่ยง คัดเลือกพฤติกรรม กำหนดเป้าหมาย กระบวนการสังเกตพฤติกรรม การสื่อสาร  ให้คำแนะนำ 

      วัดผลการดำเนินการ   กระบวนการสังเกตพฤติกรรม  สื่อสาร ให้คำแนะนำ จนครบระยะเป้าหมาย  วัดผล สรุปผลการดำเนินงานโครงการ BBS

 สิ่งที่ผู้เข้ารับการสัมมนาจะได้รับ
- เพื่อให้เข้าใจแนวคิดของการสร้างพฤติกรรมความปลอดภัย
- เพื่อให้เห็นความสำคัญของสื่อสาร เพื่อนช่วยเพื่อน
- เพื่อให้เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ที่เกิดจากทัศนคติความปลอดภัย และจิตสำนึกที่ดีของพนักงานทุกคนในองค์กร

ผู้เข้าอบรม   ผู้บริหาร  ผจก. หน.แผนก หน.งาน  วิศวกร / จนท. และพนักงานทุกหน่วยงาน

 

ระยะเวลาอบรม   1 วัน ( 09.00 น - 16.00 น. )

 

 ผมมุ่งมั่น ตั้งใจ ทำหลักสูตรนี้ อยากให้ทุกคนเข้าใจและทำได้จริง แบบง่าย ๆ และได้ผล ลดอุบัติเหตุ สร้างพฤติกรรมความปลอดภัย มี Safety Mind...

ผมนำวิชาการที่ได้เรียนรู้ มาปรับ ประยุกต์ใช้ในการทำหลักสูตร จากท่านอาจารย์ทั้งสอง(อ .ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย  และนาย วีรพัฒน์ เปล่งศรีสกุล )พร้อมนำตัวอย่างการทำจริง และเห็นผลมาแล้ว  ต้องขอบคุณเพื่อน จป ที่ให้คำแนะนำมาด้วย ซึ่งอบรมเสร็จแล้ว สามารถติดต่อ ขอคำแนะนำ ปรึกษาได้  เพื่อสร้างพฤติกรรมให้ปลอดภัย..แบบยั่งยืน จนเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร.....

 

ย้ำอีกครั้ง มีตัวอย่างวิธีการทำ BBS ได้จริง.. เข้าใจง่าย ทำได้จริง  เหมาะกับ..สำหรับอุตสาหกรรมโรงงาน  ที่มุ่งมั่น สร้างเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัย.... แบบยั่งยืน

 
[html]https://www.youtube.com/watch?v=Piycd-SuVRM&feature=youtu.be[html]

 

13
สวัสดีครับ

      Thank you  :  Thanakorn Krajangphut (Tee)  Human Resource (HR)   SV Transpro Company Limited    96 Moo 8 Pathum-Nonthaburi Road      Bangkhuwat  Muang Pathumthani 12000

        ที่ให้โอกาสผมไป เผยแพร่ความรู้ด้านความปลอดภัย ในหลักสูตร BBS   การปลูกฝั่งพฤติกรรมความปลอดภัยให้กับพนักงาน เพื่อให้พนักงานปฏิบัติงานอย่างถูกต้องและปลอดภัย  ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย ให้แสดงพฤติกรรมที่ปลอดภัย  โดยการสังเกต ให้คำแนะนำ ชมเชย พูดให้คิด ดีกว่า บอกให้เขาทำ  เพื่อนช่วยเพื่อน  ลดอุบัติเหตุ  ทำพฤติกรรมปลอดภัยบ่อย จนกลายเป็น วัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร

        ผมเชื่อว่า ที่นี้ คุณทำได้  ทุกชีวิตปลอดภัย เพราะเราทุกคน ช่วยเหลือกัน เพื่อนช่วยเพื่อน เพิ่มคุณค่าชีวิตและมีความปลอดภัยในการทำงาน....

 

 

14
ก.แรงงาน เอาผิดอาญา บริษัท ซีพีเอฟ หลังพบไม่ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย เป็นเหตุให้ลูกจ้างเสียชีวิตในบ่อน้ำเสีย นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการกรณีลูกจ้าง บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด เสียชีวิตในบ่อน้ำเสีย ว่า พนักงานตรวจความปลอดภัยได้สอบข้อเท็จจริงผู้แทนนายจ้างและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้วพบว่า นายจ้างปฏิบัติไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 และกฎกระทรวงฯ การทำงานในที่อับอากาศ พ.ศ. 2547 รวม 3 ประเด็นด้วยกัน คือ 1. ไม่แจ้งให้ลูกจ้างที่ทำงานในสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เป็นอันตรายอันอาจเกิดแก่ชีวิตทราบอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงาน และไม่แจกคู่มือการปฏิบัติงานให้กับลูกจ้างทุกคน 2. ไม่จัดทำป้ายที่อับอากาศ อันตรายห้ามเข้า ไว้ที่ฝาบ่อพักกากตะกอนซึ่งเป็นที่อับอากาศ และ 3. จัดทำสิ่งปิดกั้นเพื่อไม่ให้บุคคลใดเข้าหรือตกลงไปในที่อับอากาศไม่สมบูรณ์
ทั้งนี้ ความผิดตามกฎหมายดังกล่าวจะมีอัตราโทษสูงสุดคือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า พนักงานตรวจความปลอดภัยได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา.

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/1013774

15
โดย กทม.ได้รายงานต่อ สตง.ว่าโรงภาพยนต์จำนวน 330 โรง ที่ตั้งอยู่ในอาคาร 44 แห่ง หรือคิดเป็น 100% ของโรงภาพยนต์ที่เปิดบริการอยู่ใน กทม. ล้วนมีข้อบกพร่อง ไม่เป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคารที่กำหนดให้ต้องใช้วัสดุทนไฟและมีระบบป้องกันอัคคีภัยที่ได้มาตรฐาน เช่น ไม่ใช้บานประตูทนไฟ ไม่ติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิงให้ครอบคลุมพื้นที่ ป้ายบอกทางเดินป้ายบอกทางหนีไฟ มองเห็นไม่ชัดเจน ไม่ครอบคลุมพื้นที่หรือไม่เป็นมาตรฐาน เป็นต้น (รายงานเมื่อ 31 มี.ค. 2560)



เรื่องนี้ถือเป็นอันตรายใกล้ตัวประชาชนที่น่าตกใจ เพราะถูกพบว่าเกิดขึ้นทั่วกรุงเทพมหานคร เมืองที่มีความเจริญและมีประชากรมากที่สุดในประเทศ เหตุนี้ทำให้ต้องเป็นห่วงยิ่งขึ้นอีกว่า บรรดาโรงภาพยนต์ทั้งเก่าและใหม่ที่เปิดให้บริการประชาชนอยู่ในต่างจังหวัดทั่วประเทศหลายพันแห่งนั้น จะมีการหลีกเลี่ยงกฎหมายและเป็นอันตรายต่อประชาชนมากกว่านี้หรือไม่

เราคงจำกันได้ถึงเหตุการณ์ไฟไหม้โรงภาพยนต์เมเจอร์ซินีเพล็กซ์ ปิ่นเกล้า เมื่อ 28 กรกฎาคม 2559 และล่าสุดกับข่าวไฟไหม้อพาร์ทเม้นท์สูง 24 ชั้น กลางกรุงลอนดอนเป็นเหตุให้มีคนตายร่วมร้อยศพ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครอยากเห็นความสูญเสียร้ายแรงเช่นนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยของเรา

ปัญหานี้ “ผู้ประกอบการ” น่าจะรู้ดีว่า เป็นการเอาชีวิตของลูกค้าไปเสี่ยงเพื่อแลกกับกำไรที่มากขึ้น จากการละเมิดกฎหมาย ละเมิดกฎแห่งความปลอดภัย ที่อาจสร้างความเสียหายและเสื่อมเสียให้กับประเทศได้ แต่ที่ต้องตั้งคำถามกันชัดๆ ก็คือ “อะไรทำให้เจ้าหน้าที่ไม่รู้เห็น” ว่ามีการกระทำผิดตั้งแต่วันแรกที่เขาเปิดกิจการ “อะไรทำให้เจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลย” ไม่มีมาตรการแก้ไขป้องกันหรือลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และไม่ยอมดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเด็ดขาดกับเจ้าของอาคารที่เพิกเฉยไม่ยอมแก้ไขให้เป็นไปตามกฎหมาย

ในรายงานของ สตง.ไม่ได้กล่าวว่ามีการเอื้อประโยชน์หรือทุจริตประการใด แต่การทำหน้าที่ตรวจสอบและเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาให้สาธารณชนได้รับรู้เรื่องสำคัญเช่นนี้ของ สตง.ถือเป็นเรื่องน่าชื่นชมอย่างยิ่ง

หมายเหตุ : ภาประกอบจากไทยรัฐ

หน้า: [1] 2 3 ... 76