เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พล.ต.ท. เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 โดยระบุว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่6 ของการรณรงค์ “สงกรานต์เป็นสุข ทุกคนปลอดภัย ร่วมใจรักษาวัฒนธรรม” เกิดอุบัติเหตุ 291 ครั้ง (เท่ากับปี 2555) ผู้เสียชีวิต 30 ราย (ปี 2555 เสียชีวิต 29 ราย) เพิ่มขึ้น 1 ราย ร้อยละ 3.45 ผู้บาดเจ็บ 344 คน (ปี 2555 บาดเจ็บ 308 คน) เพิ่มขึ้น 36 คน ร้อยละ11.69
สาเหตุเมาขับอันดับ1
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาแล้วขับ ร้อยละ 34.71 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 24.05 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 75.59 รถปิคอัพ ร้อยละ 13.71 ส่วนพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 19.79 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 66.32 บนถนนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 37.46 ถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 32.99 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 31.96 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 54.81
สุพรรณยอดเจ็บพุ่ง
ทั้งนี้ มีการจัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,340 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 68,883 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 688,513 มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 112,730 ราย โดยมีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 34,066 ราย รองลงมา ไม่มีใบขับขี่ 32,513ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครปฐม แพร่ 12 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นนทบุรี เพชรบูรณ์ ร้อยเอ็ด 3 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุพรรณบุรี 19 ราย
ยอดเสียชีวิต285เจ็บ2,783ราย
เมื่อสรุปอุบัติเหตุทางถนนรวม 6 วัน (11–16 เมษายน) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,581 ครั้ง (ปี2555 เกิด2,872 ครั้ง) ลดลง 291 ครั้ง ร้อยละ10.13 ผู้เสียชีวิตรวม 285 ราย (ปี2555 เสียชีวิต282ราย) เพิ่มขึ้น 3 ราย ร้อยละ 1.06 ผู้บาดเจ็บรวม 2,783 คน (ปี 2555 บาดเจ็บ3,059 คน) ลดลง 276 คน ร้อยละ 9.02 จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต รวม 7 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ ตราด ปัตตานี ภูเก็ต ยะลา ระนอง และอำนาจเจริญ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 94 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ 12 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 95 คน
ให้เน้นมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ
พล.ต.ท. เรืองศักดิ์ กล่าวว่า สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดยังคงเป็นการเมาแล้วขับ การขับรถเร็ว และการขับรถโดยประมาท จึงขอให้จังหวัดเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานมุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง โดยจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางหลัก กวดขันผู้ใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ควบคุมการขับรถเร็วและการดื่มแล้วขับ โดยเฉพาะจังหวัดโดยรอบที่เป็นเส้นทางเข้าสู่กรุงเทพฯ ให้เน้นเส้นทางขาเข้า โดยระบายการจราจรให้มีความคล่องตัว อีกทั้งกำชับจุดตรวจเข้มงวดรถโดยสารสาธารณะเป็นพิเศษ รวมถึงรถตู้โดยสารด้วย
แนะคนขับพักผ่อนให้เพียงพอ
ด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่าจากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงวันสุดท้ายของการเดินทางช่วงเทศกาลมักมี สาเหตุจากการง่วงแล้วขับ จึงขอฝากเตือนผู้ขับขี่ให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน หยุดพักรถทุกระยะ 150 กม. หรือทุก 2 ชม. ในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น สถานีบริการน้ำมัน จุดบริการ จุดพักรถริมข้างทาง เป็นต้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
ตร.จับผิดกฎจราจร6.8แสนราย
วันเดียวกัน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจได้รวบรวมสถิติการบังคับใช้กฎหมายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 11-16 เมษายน พบว่า สถิติการจับกุม 10 ข้อหาหลัก ได้แก่ 1.ไม่สวมหมวกนิรภัยมียอดสะสมรวมทั้งสิ้น 203,324 ราย 2.มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย 60,697 ราย 3.เมาสุรา 13,464 ราย 4.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 87,802 ราย 5.ไม่มีใบขับขี่ 195,474 ราย 6.ความเร็วเกินกำหนด 26,237 ราย 7.ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 28,206 ราย 8.ขับย้อนศร 28,470 ราย 9.คดีแซงในที่คับขัน 17,788 ราย และ 10.ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ 19,531 ราย รวมทั้งสิ้น 680,993 ราย
คนแห่ล้างรถ คาร์แคร์รายได้พุ่ง
ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนได้นำรถยนต์ที่ขับขี่ไปเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ เข้าใช้บริการล้างอัดฉีดทำความสะอาดตามร้านคาร์แคร์หลายแห่งในเขตตัวเมืองบุรีรัมย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าตลอดทั้งวันจะมีผู้นำรถมาใช้บริการล้างอัดฉีดไม่น้อยกว่า 40-50 คันจากปกติมีผู้นำรถมาใช้บริการเพียงวันประมาณ 20 คันเท่านั้น ทำให้ในช่วงนี้ผู้ประกอบการมีรายได้เฉลี่ยวันละ 7,000-8,000 บาท จากปกติวันละ 2,000-3,000 บาท
ขณะที่เจ้าของรถบางคันได้นำรถมาจอดรอคิวนานกว่า 2 ชม. จนต้องตระเวนไปใช้บริการยังร้านอื่น เนื่องจากพนักงานล้างไม่ทัน เพราะรถที่เล่นสงกรานต์ส่วนใหญ่จะเปื้อนคราบแป้ง สี ดินสอพอง ทำให้ล้างยากต้องใช้เวลานาน
ชลบุรีจัดสงกรานต์ยาว9วัน9คืน
ทั้งนี้ ถึงแม้เทศกาลสงกรานต์ปี 2556 จะกำหนดให้มีการเล่นสาดน้ำและจัดกิจกรรมต่างๆ เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน แต่ที่ จ.ชลบุรี ก็ยังคงมีกิจกรรมในเทศกาลสงกรานต์อย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 19 เมษายน เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ของไทย และยังเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งจะสร้างรายได้เข้าจังหวัดอย่างมหาศาล
ดึงคนร่วมกิจกรรมใน4อำเภอใหญ่
นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จ.ชลบุรีจัดงานสงกรานต์นี้ติดต่อกันมา 81 ปี เพื่อเป็นการส่งเสริม และรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น นำรายได้จากการจัดงานไปทำนุบำรุง และสร้างสาธารณประโยชน์ที่ขาดแคลน โดยยึดแนวคิด “ย้อนอดีตชลบุรี สู่ปัจจุบันมหัศจรรย์แห่งอนาคต” และเป็นจังหวัดเดียวที่จัดนาน 9 คืน 9 วันโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมาไปจนถึงวันที่ 19 เมษายน โดยจัดกิจกรรมใน 4 อำเภอคือ อ.เมือง ศรีราชา สัตหีบ และบางละมุง
สงกรานต์พระประแดง19-21เม.ย.
ส่วน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เตรียมที่จะจัดงาน “สงกรานต์พระประแดง” ระหว่างวันที่ 19 - 21 เมษายนนี้ ที่เทศบาลเมืองพระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยงานสงกรานต์พระประแดง ถือได้ว่าเป็นประเพณีขึ้นปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายรามัญ กับงานประเพณีแบบดั้งเดิม ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ ขบวนแห่หงส์ธงตะขาบ ขบวนนางสงกรานต์ และการเล่นน้ำสงกรานต์ ขบวนรถบุปผชาติ การละเล่นสะบ้าของชาวไทยรามัญ การละเล่นพื้นบ้าน เป็นต้น
ตราดจัดงานเกาะช้างวันไหล
เช่นเดียวกับ เทศบาลตำบลเกาะช้าง จ.ตราด ที่จะจัดงาน “เกาะช้างวันไหล” ขึ้นในวันที่ 19-21 เมษายน ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ กิจกรรมสืบสานประเพณีไทย ณ บริเวณเวทีกลาง (หาดคลองพร้าว) ประกอบด้วย การสรงน้ำพระพุทธ พระสงฆ์, พิธีรดน้ำดำหัวขอพรผู้สูงอายุ, กิจกรรมผู้สูงอายุและการแสดงพื้นบ้าน รำวงย้อนยุค เป็นต้น
