สำหรับกฎหมายที่กำหนดให้ต้องมีการซ้อมแผนภาวะฉุกฉินกรณีสารเคมีหกรั่วไหล ความถี่ในการซ้อม จะมีกำหนดไว้ แต่มิได้เป็นการบังคับค่ะ เพียงเป็นแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งหากว่าเรามีวิธีการที่ดีกว่านี้ ก็สามารถนำมาปรับใช้หรือนำมาปฏิบัติได้ค่ะ โดยกฎหมายที่มีการกำหนดเกี่ยวกับการจัดการสารเคมีและวัตถุอันตรายนั้น อาทิเช่น
1.ประกาศกรมโรงงานอุตสาหกรรม เรื่อง คู่มือการเก็บรักษาสารเคมีและวัตถุอันตราย พ.ศ. 2550 ซึ่งจะมีการกำหนด “คู่มือการเก็บรักษาสารเคมีและวัตถุอันตราย” สำหรับเป็นแนวทางปฏิบัติให้เกิดความปลอดภัยในการเก็บรักษาสารเคมีและวัตถุอันตรายของผู้ประกอบกิจการโรงงานและผู้ประกอบการวัตถุอันตราย โดยกำหนดไว้ใน
4. มาตรการการป้องกัน
4.12 การฝึกอบรม (หน้า 33)การจัดให้มีการฝึกอบรมในสถานที่เก็บรักษาสารเคมีและวัตถุอันตรายให้มีความรู้ความเข้าใจและความชำนาญในการปฏิบัติงาน จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัย ต้องมีการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานใหม่และผู้ปฏิบัติงานเดิมที่มีอยู่อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งในหัวข้อต่อไปนี้
4.12.1 การจำแนกประเภทสำหรับการจัดเก็บ ข้อมูลความปลอดภัย และวิธีการจัดเก็บ
4.12.2 วิธีการใช้อุปกรณ์เครื่องป้องกันส่วนบุคคล
4.12.3 วิธีปฏิบัติเมื่อมีเหตุฉุกเฉินและการซ้อมปฏิบัติงานแผนฉุกเฉิน
4.12.4 วิธีดับเพลิงโดยใช้เครื่องดับเพลิง
4.12.5 การฝึกอบรมพนักงานขับรถยก
4.12.6 การจัดการเมื่อมีเหตุรั่วไหล
2. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย (***ยกเลิกโดย พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ลงวันที่ 17 มกราคม 2554)
กำหนดไว้ใน ข้อ 17 ให้นายจ้างจัดให้มีการอบรมลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตรายหรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิต เพื่อให้ทราบและเข้าใจถึงกระบวนการผลิต การเก็บรักษา การขนส่ง อันตรายที่เกิดจากสารเคมีวิธีการควบคุมและป้องกัน วิธีกำจัดมลภาวะ วิธีอพยพเคลื่อนย้ายลูกจ้างออกจากบริเวณที่เกิดอันตรายและวิธีปฐมพยาบาลผู้ได้รับอันตราย
3. ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2530) ออกตามความในพ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2512 เรื่อง หน้าที่ของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานเป็นประกาศที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานทุกประเภทหรือชนิดมีหน้าที่กระทำการเกี่ยวกับการเก็บและการใช้วัตถุมีพิษ วัตถุเคมีวัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด และวัตถุอื่นที่อาจเป็นอันตรายได้ โดยจะกำหนดไว้ใน
ข้อ 65 ต้องจัดให้มีการอบรม แนะนำชี้แจงคนงานให้เข้าใจถึงเหตุอันตรายอันอาจจะเกิดขึ้นได้ของงานต่างๆ ที่ตนปฏิบัติอยู่ ตลอดจะนำอธิบายให้รู้ถึงวิธีระมัดระวังป้องกันอันตรายและการใช้มาตรการการแก้ไขอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานได้ในทันทีด้วย
ข้อ 72 ในกรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในขณะปฏิบัติงานต้องหยุดงานส่วนนั้นๆทันที คนงานซึ่งไม่มีหน้าที่ซ่อมแซมแก้ไขต้องออกจากบริเวณนั้นโดยด่วน และจัดให้มีการแก้ไขหรือระงับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานสวมเครื่องป้องกันอันตรายส่วนบุคคลตามความเหมาะสม
ซึ่งในส่วนของการซ้อม ว่าสามารถซ้อมพร้อมกับการฝึกซ้อมดับเพลิงและการฝึกซ้อมหนีไฟได้หรือไม่นั้น จะไม่มีกฎหมายที่กำหนดไว้ค่ะ ดังนั้นอาจจะซ้อมพร้อมกันได้เพียงแต่ว่าการฝึกซ้อมดับเพลิงและการฝึกซ้อมหนีไฟต้องทำการฝึกให้ครบตามหัวข้อและระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดค่ะ